การจัดการและรักษาปัญหาผมร่วง
ปัญหาผมร่วงเป็นปัญหาและหนึ่งในความกังวลใจที่พบบ่อยในทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผมร่วง ผมบาง หน้าผากเถิก หัวล้าน รอยแสกกว้าง ฯลฯ สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตของเราได้อย่างมาก
ในฐานะแพทย์ผู้ให้การดูแลปัญหานี้มานานหลายปี หมอได้เขียนบทความนี้เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการและรักษาปัญหาผมร่วงให้อ่านเข้าใจกันง่ายๆนะค
บทความนี้อาจช่วยให้คุณสามารถทำความเข้าใจกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ การประเมินจาก การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การทดสอบในห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค ไปจนถึงการรักษาโดยใช้ยาและการผ่าตัด เพื่อให้คุณเข้าใจกลุ่มอาการของภาวะผมร่วงได้ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
สารบัญ
1 การซักประวัติ (History Taking)
2 ตรวจเส้นผมและหนังศีรษะ (Scalp Examination)
3 การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Tests)
4 การวินิจฉัยเแยกโรค (Differential Diagnosis)
5 ยาที่ใช้ในการรักษาในปัจจุบัน (Medical Treatment)
6 ตัวเลือกการรักษา (Treatment Options)
7 บทสรุป Conclusion
1 การซักประวัติ (History Taking)
การซักประวัติเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก แพทย์จะทำการประเมินว่าปัญหาผมร่วงของคนไข้นั้นน่าจะเกิดจากสาเหตุใด คำถามที่สำคัญมีดังต่อไปนี้:
1.1. ระยะเวลาที่ผมร่วงและรูปแบบของการร่วงของผม (Duration and Pattern of Hair Loss):
เพื่อประเมินว่าผมที่ร่วงนั้นเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังมาแล้วสักระยะ เนื่องจากมีสาเหตุของพยาธิสภาพที่แตกต่างกัน
2. ประวัติผมร่วงในครอบครัว (Family History):
มีคนในครอบครัวมีประวัติผมร่วงหรือไม่ ถ้ามี ท่านใดร่วง และเป็นผมร่วงรูปแบบไหน เพื่อประเมินผมร่วงที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
3. ประวัติการเจ็บป่วยและโรคประจำตัว (Medical History):
มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังใดหรือไม่, ผ่านการผ่าตัดใดๆ มาหรือไม่, และมีความเครียดสูงไหมในระยะที่ผ่านมา
4. ประวัติการใช้ยา (Medications):
เพื่อประเมินยาที่อาจมีผลต่อการร่วงของเส้นผม
5. รูปแบบการดูแลผมและการใช้ชีวิต (Lifestyle Factors):
การรับประทานอาหาร, การใช้สารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อเส้นผมและหนังศีรษะ, พฤติกรรมบางอย่าง เช่นการรวบผมตึงมากๆ เป็นต้น

2 ตรวจเส้นผมและหนังศีรษะ (Scalp Examination)
2.1 ตรวจรูปแบบการร่วง (Pattern of Hair Loss)
ประเมินว่าเป็นการร่วงแบบทั่วๆ (diffuse), ร่วงเฉพาะจุด (localized), หรือร่วงแบบมีรูปแบบ (patterned) เช่น การร่วงกรรมพันธุ์รูปแบบเพศชาย (male pattern baldness) หรือเพศหญิง (female pattern baldness)
2.2 สภาพหนังศีรษะ (Scalp Condition)
มีการอักเสบ (inflammation), รังแค (scaling), หรือแผลเป็น (scarring) หรือไม่
2.3 คุณภาพของเส้นผม (Hair Quality)
ตรวจสอบตัวก้านผม (hair shaft) ว่ามีการแตก (breakage) หรือลีบเล็กผิดปกติ (miniaturization) หรือไม่
3 การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Tests)
การเจาะเลือด (Blood Tests)
3.1- วัดระดับฮอร์โมน (Hormone Levels):
ระดับการทำงานของต่อมไทรอยด์ (Thyroid function tests) เช่น T3, T4, TSH, การทำงานของฮอร์โมนเพศชาย (androgen levels) เช่น testosterone, DHT
3.2- ระดับสารอาหาร (Nutritional Deficiencies):
เช่น ระดับธาตุเหล็ก (Iron levels) ferritin, วิตามินดี (Vitamin D), สังกะสี (Zinc) หรืออื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
3.3- ระดับแอนตี้บอดี้ต่อต้านภูมิตัวเอง (Autoimmune Markers):
เพื่อช่วยประเมินกรณีผมร่วงที่สงสัยว่าระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เช่น โรคลูปัส (lupus) หรือ อโลพีเซียแอเรียต้า (alopecia areata)
3.4- การตรวจอื่นๆ (Other Relevant Tests): เพื่อประเมินโรคส่วนตัวที่สงสัยว่าอาจจะมีซ่อนอยู่
4 การวินิจฉัยเแยกโรค (DIFFERENTIAL DIAGNOSIS)
ภาวะผมร่วงที่พบบ่อย (Common Causes of Hair Loss):
1. ผมร่วงจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia)
ภาวะนี้จะมีรูปแบบการร่วงชัดเจน ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย (male or female pattern baldness)
2. ผมร่วงทีโลเจน (Telogen Effluvium)
เป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราวหลังการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น ภาวะการเจ็บป่วย, ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว ; อ่านเพิ่ม 📖 Telogen Effluvium
3. อโลพีเซียแอเรียต้า (Alopecia Areata)
เกิดการภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติต่อต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง (autoimmune condition) มีลักษณะร่วงเป็นหย่อมๆ (patchy hair loss)
4. ผมร่วงจากการดึงรั้ง (Traction Alopecia)
การดึงผมบางบริเวณตึงมากต่อเนื่องกัน (pulling or tension on the hair) ทำให้ผมร่วงได้
5. ภาวะหนังศีรษะติดเชื้อ (Scalp Infections)
เช่น เชื้อราบนหนังศีรษะหรือขี้กลาก (tinea capitis)
6. ภาวะขาดสารอาหารบางประเภท (Nutritional Deficiencies)
เช่น ขาดธาตุเหล็ก

Male AGA
ผมร่วงกรรมพันธ์-ชาย

Female AGA
ผมร่วงกรรมพันธ์-หญิง

Alopecia Areata
โรคผมร่วงเป็นหย่อม

Traction alopecia
ผมร่วงจากการดึงรั้ง

5 ยาที่ใช้ในการรักษาในปัจจุบัน (Medical Treatment)
paragraph
1. ยาใช้ภายนอก (Topical Treatments):
1.1 มิน๊อกซิดิล (Minoxidil):
มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป ความเข้มข้น 2% หรือ 5% กระตุ้นการไหลเวียนรอบๆ รากผม (stimulates hair growth) ใช้วันละ 2 ครั้ง ระยะเวลาเห็นผลการรักษา 4-6 เดือน
1.2 คาร์พิกซิล (Capixyl BG): 🎯 PureAndBright Hair Tonic
อาจไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป เพราะใช้เป็นส่วนผสมหลักของบางแบรนด์ แนะนำปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่าน มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชายที่มีต่อรากผมและทำให้ผมร่วงแบบ AGA ใช้แค่วันละครั้ง เห็นผลเร็ว ประมาณ 2-3 เดือน
2. ยารับประทาน (Oral Medications):
2.1 ฟินาสเตอร์ไรด์ (Finasteride):
ยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน DHT, slowing hair loss in men ใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
2.2 สไปโรโนแลคโตน (Spironolactone):
ช่วยลดระดับฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิง (androgen levels) ในผู้หญิง ใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Nutritional Supplements):
3.1 อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไบโอติน (Biotin), ธาตุเหล็ก (Iron), สังกะสี (Zinc)
: 🎯 PureAndBright Bio-gen
เพื่อผลการรักษาสูงสุด และปรับการบริหารยาให้เหมาะสม โปรดปรึกษาแพทย์นะคะ
6 ตัวเลือกการรักษา (Treatment Options)
1. ปลูกผม (Hair Transplantation):
1.1 FUE (Follicular Unit Extraction):
ผลการรักษาดี ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน ทำซ้ำได้ในอนาคตหากมีความจำเป็น มีชนิดย่อยคือ 🎯 FUE ใช้ jewelers forceps ปลูก และ 🎯 FUE-DHI ใช้ปากกา Implanter ช่วยปลูก แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณนะคะ
1.2 FUT (Follicular Unit Transplantation):
ผลการรักษาดี แต่เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องพักฟื้น และทำซ้ำไม่ได้ในอนาคต
2. ผ่าตัดลดผิวหนังส่วนเกิน Scalp Reduction:
ผ่าตัดลดเนื้อที่ของหน้าผาก (Scalp Lifting and Stretching) *โปรดปรึกษาแพทย์
3. ฉีดปลูกถ่ายเซลรากผม (PureCells Stem cellsTherapy):
ใช้เซลรากผมที่มาจาคนไข้เอง ฉีดปลูกเฉพาะที่ๆต้องการให้ผมขึ้นใหม่ อ่านต่อ 🎯 PureCells
4. ฉีดโกรธแฟคเตอร์ PRP (Platelet-Rich Plasma Therapy):
ใช้โกรธแฟคเตอร์ที่มาจากเลือดของคนไข้เอง ฉีดบำรุงเฉพาะที่ อ่านต่อ 🎯 Growth Factors
5. แสง Low-Level Laser (Light) Therapy หรือ light-emitting diodes (LED):
ใช้คลื่นแสงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณรากผมและหนังศีรษะ ลดการอักเสบและหลุดร่วงของเส้นผม อ่านต่อ 🎯 LED
7 บทสรุป Conclusion
การจัดการและรักษาปัญหาผมร่วงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม เราสามารถบรรเทาและแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลผม การใช้ยา หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดปลูกผม การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการรักษาแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผมร่วงและต้องการคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ ทางเราพร้อมให้บริการและสนับสนุนคุณทุกขั้นตอนในการฟื้นฟูสุขภาพผมของคุณ. ติดต่อเราวันนี้ที่ เพียวร์แอนด์ไบร์คลินิก website, fanpage เพื่อเริ่มต้นการรักษาและกลับมามีผมที่หนาและแข็งแรงอีกครั้ง! นัดปรึกษาแพทย์ฟรี ติดต่อเราที่ ไลน์ ID @PureAndBright
❝We cannot solve problems with the kind of thinking we employed when we came up with them.❞
🖋️- Albert Einstein
เอกสารอ้างอิง
Practical management of hair loss.
Shapiro J, Wiseman M, Lui H. Can Fam Physician. 2000 Jul;46:1469-77.
PMID: 10925761
Frequency, severity and related factors of androgenetic alopecia in dermatology outpatient clinic: hospital-based cross-sectional study in Turkey.
Salman KE, Altunay IK, Kucukunal NA, Cerman AA. An Bras Dermatol. 2017 Jan-Feb;92(1):35-40. doi: 10.1590/abd1806-4841.20175241. PMID: 28225954