ปลูกผมที่ไหนดี
ใครบ้างที่คิดถึงเรื่องการปลูกผม ก็จะมี ปัญหา ผมร่วง, ผมบาง, หัวล้าน หรืออยากปรับรูปหน้า เป็นต้นค่ะ
จากประสบการณ์ที่ดูแลคนไข้ในคลินิกของเรามีหลากหลายปัญหาค่ะ ทั้งปัญหาผมที่เกี่ยวกับเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของวัยและอายุ และปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของวัยร่วมด้วย
การดูแลเรื่องปัญหาผมนั้นเป็นการดูแลใช้ความต่อเนื่องและในหลายปัญหาต้องให้การดูแลมากกว่าการรักษาเพียงหนึ่งอย่าง ดังนั้นการประเมิณสภาวะของคนไข้แต่ละคนมีความสำคัญกับการวางแผนการดูแลค่ะ
สำหรับคนไข้ “ปลูกผม ที่ไหน ดี” ที่นี้คนไข้ต้องประเมินอะไรบ้าง มาพิจารณาด้วยกันนะคะ
1. ปัจจัยของของคนไข้
คำถามพื้นฐานที่สุด แต่เป็นคำถามที่สำคัญที่สุด “คนไข้กังวลเรื่องอะไรและความคาดหวังของคนไข้ต้องการให้อะไรดีขึ้น” แม้ว่าในความเป็นจริง คนไข้อาจจะมีคำถามแค่ “ปลูกผม ที่ไหน ดี” หรือ “ปลูกผม ราคา” ก็ตาม ต่อไปนี้เราจะมาย่อยปัญหากันนะคะ
ปัญหาผมที่พาคนไข้มาปรึกษามาหลากหลายค่ะ เรียงตามความบ่อยนะคะ หน้าผากเถิกมากขึ้น, ผมบางลง, รอยแสกกว้างขึ้น, กลางกระหม่อมบาง จนเห็นหนังศีรษะ, ผมบางทั่วๆ, หวีผมแล้วร่วงกอง อยากปรับรูปหน้าผาก เป็นต้น เห็นไหมคะ หลากหลายมาก
ที่นี้พอได้ข้อมูลสิ่งที่คนไข้กังวลแล้ว แพทย์ก็จะต้องทำการแปลงสาส์นกลับมาเป็นข้อมูลทางการแพทย์อีกที ว่าคนไข้แต่ละคนมีภาวะอะไรบ้าง
โดยประเมิณจาก สภาพผมและสภาพของหนังศรีษะ, เพศ อายุ, โรคประจำตัวและยาที่รับประทานประจำ หากมี, การรักษาก่อนหน้านี้ และไลฟ์สไตล์อื่นๆของคนไข้ที่อาจมีผลต่อเส้นผมและหนังศรีษะ เช่น อาชีพที่ต้องรวบผมตึง, การทำเคมี เป็นต้นต่ะ
2. ก่อนตัดสินใจปลูกผม แพทย์จะประเมินอะไรบ้าง
แรกสุดนะคะ คนไข้มีปัญหาผมที่เกิดจากสภาวะทางการแพทย์ไหม ถ้ามีเป็นภาวะอะไร ที่ต้องตอบคำถามนี้ก่อน เพราะที่คลินิกมีสองกลุ่มใหญ่ๆค่ะ กลุ่มแรก มีภาวะ ผมร่วง ผมบาง ในทางการแพทย์จริงๆ อันนั้นต้องประเมิณตามภาวะของโรค อันละลงรายละเอียดต่อไปนะคะ
ส่วนกลุ่มที่สองคือมาด้วยความสวยงาม ปัญหาพยาธิสภาพของเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ชัดเจน คนไข้ต้องการทำเพื่อความสวยงาม เช่น ปรับไรผม ปรับกรอบหน้า ปลูกคิ้ว ปลูกหนวด เป็นต้นค่ะ อันนี้เราก็ทำค่ะ
ที่นี้ เมื่อประเมิณภาวะทางร่างกายแล้ว ก็จะทำการประเมิณเรื่องอื่นๆต่อไป ที่อาจมีผลต่อแผนและผลของการรักษาค่ะ เช่น
• คนไข้สามารถเดินทางเข้ามารับการรักษาที่คลินิกได้หรือไม่ ถ้ามาสามารถมาได้ มาได้ถี่แค่ไหน
• วางงบประมาณไว้เท่าไหร่ มีการรักษาร่วมที่คนไข้ท่านนั้นๆควรได้รับการรักษาต่อเนื่องด้วยหรือเปล่าหลังการปลูกผม
• คนไข้มีอาชีพอะไร สามารถหยุดงานได้กี่วัน ต้องบางอาชีพต้องใส่หมวกเซฟตี้ หมวกนั้นกดศรีษะไหม บางอาชีพต้องออกกลางแจ้ง บางอาชีพทำงานในร่ม เป็นต้นค่ะ
ตรงนี้เป็นรายละเอียดที่แต่ละท่านไม่มีใครเหมือนกันเลยค่ะ
มากลุ่มแรกก่อนนะคะ กลุ่มที่ไม่ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ แต่มาด้วยความสวยงาม เช่น ปรับรูปหน้า ปรับกรอบหน้า ปลูกคิ้ว ปลูกหนวด กลุ่มนี้ การประเมิณคนไข้ซับซ้อนน้อยที่สุดค่ะ ถ้าประเมิณว่าสามารถทำการรักษาได้ สิ่งที่ต้องดูแลหลังจากนั้นคือ การดูแลเรื่องความสวยงามเป็นหลัก ทำความเข้าใจกับความคาดหวังของคนไข้สิ่งที่สามารถทำจริงได้ค่ะ กลุ่มนี้การดูแลจะคล้ายๆการดูแลคนไข้ที่มาทำเลเซอร์ผิว คนไข้ต้องการดูดีขึ้นในรูปแบบที่เป็นไปได้ของตัวเอง แพทย์ก็ต้องทำการปรับจูนสิ่งที่ทำได้จริงกับสิ่งที่คนไข้คาดหลังให้ตรงกันมากที่สุดค่ะ กลุ่มนี้เหมือนทำงานศิลป์กลายๆค่ะ เป็นศิลปะเฉพาะของแพทย์แต่ละคน
กลุ่มต่อมา เป็นกลุ่มที่มีภาวะทางการแพทย์ ที่ต้องรักษาร่วมด้วยจริงๆ เช่น ภาวะผมบางจากพันธุกรรม หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Androgenetic Alopecia (AGA) เป็นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง อาจแสดงอาการได้ตั้งแต่อายุน้อยๆถุงช่วงวันที่มากขึ้น ที่คลินิกพบได้ตั้งแต่อายุ 20 ปลายๆ ไปจนถึงอายุมากที่สุดที่เข้ามาปลูกผมกับเราคือ 60 กว่าเลยค่ะ ภาวะอื่นๆรองๆลงมาคือ ผมร่วง เส้นผมลีบบาง ความหนาแน่นของเส้นผมลดลง หนังศีรษะอักเสบ หนังศีรษะฝ่อบาง หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆที่มีผลต่อการร่วงของเส้นผมค่ะ ซึ่งเมื่อพบภาวะอื่นๆร่วมด้วย ควรต้องรักษาหรือแนะนำให้คนไข้เข้ารับการรักษาภาวะนั้นๆร่วมด้วยนะคะ

ผมร่วง
Thining hairs

ผมร่วง
Thining hairs

ผมร่วง
Thining hairs

ผมร่วง
Thining hairs
3. ทางเลือกในการปลูกผมที่เรา
ที่นี้พอประเมิณปัญหาของคนไข้แล้ว ขั้นตอนถัดไปก็คือวางแผนการรักษาให้กับคนไข้ค่ะ จากหัตถการที่เรามีอันไหนเหมาะสมกับปัญหาใดของคนไข้
ที่ เพียวร์แอนด์ไบรท์คลินิก มีการปลูกผมแบบไหนบ้าง มาดูกันนะคะ
3.1 ปลูกผมแบบย้ายราก NanoTrim FUE
เป็นการเจาะรากผมที่ละกอรากผมด้วยหัวเจาะขนาดเล็กมาทีละกอ ที่คลินิกของเรา จะทำการคัดรากผมที่เจาะออกมาใต้กล้องจุลทรรศน์ทุกรากนะคะ ดังนั้นก่อนปลูกมั่นใจได้ว่า รากผมที่เจาะมาได้ สมบูรณ์ทุกรากก่อนนำไปปลูกค่ะ
จากนั้นจะมีการตัดเนื้อส่วนเกินที่ติดมากับรากผมออกไปก่อน เลยเรียกว่า NanoTrim เพราะเราตกแต่งด้วยการทริมด้วยความละเอียดสูงก่อนนำไปปลูก เวลานำไปปลูกจะวางกอรากผมและเรียงเส้นผมได้ง่าย ทำให้การวางตัวเป็นระเบียบและสวยงามค่ะ
วิธีนี้ เหมาะสำหรับการปลูกในบริเวณที่ผมบ้างมากๆ หรือไม่มีผมเลย เช่น หน้าผาก เป็นต้นค่ะ
3.2 ปลูกผมแบบย้ายรากโดยใช้ปากกาช่วยปัก NanoTrim FUE-DHI
เป็นการปลูกผมย้ายรากที่มีการใช้ปากกาปักผมนำผมลงสู่บริเวณที่ปลูกแทนที่จะใช้การคีบจับด้วยคีมขนาดเล็กแบบ FUE ค่ะ ซึ่งจะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะคือ หัวปากกาปัก หรือเรียกว่า Implanter มีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นตอนคือต้อโหลดกอรากผมลงในปากกาปักก่อน และนำไปปักบนหนังศีรษะที่ต้องการปลูกผมค่ะ สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Direct Hair Implanter หรือ DHI
เหมาะสำหรับการปลูกแทรกบริเวณที่มีผมอยู่ก่อนแล้ว เช่น ปลูกแทรกรอยแสกผมที่บาง ปลูกแทรกไข่ดาวกลางศีรษะ ปรับแต่ไรผมหน้าผากให้แนวผมปลูกเชื่อมแทรกไปกับแนวผมเดิม หรือปลูกคิ้วค่ะ เพราะปากกาจะปักลงไปได้ละเอียดกว่าการใช้คีมจับ
3.1 ปลูกผมแบบฉีดสเต็มเซลรากผม NanoGraft PureCells
เป็นการปลูกผมโดยใช้เซลของรากผมที่สกัดแยกออกมาจากหนังศีรษะของคนไข้โดยการตัดหนังศีรษะที่มีกอรากผม เป็นชิ้นเนื้อเล็กๆ ประมาณ 5 ชิ้นเนื้อ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ด้วยเครื่องมือเก็บชิ้นเนื้อโดยเฉพาะ
เมื่อได้ชิ้นเนื้อที่มีรากผมมาแล้ว จะนำไปทำการคัดแยกด้วยเครื่องคัดแยกเซลเฉพาะ เป็นเครื่องที่นำเข้าเฉพาะจากยุโรป Regenera Activa™
เมื่อได้เซล แพทย์จะนำเซลที่ได้นั้นมาฉีดลงบนหนังศีรษะที่ต้องการให้มีความหนาแน่นของผม โดยเซลผมที่ได้มาจะเจริญเติบโตไปเป็นเส้นผมใหม่ ผมใหม่จะค่อยๆงอกจากรูขุมขนที่มีผมอยู่เดิมในบริเวญนั้นๆ
ดังนั้นวิธีนี้จะ เหมาะสำหรับท่านที่มีผมบางกระจายทั่วๆ มีเส้นผมเดิมอยู่แต่บางลง ค่ะ
3.3 การรักษาด้วยหัตถการอื่นๆที่เสริมผลการรักษาด้วยการปลูกผม
เพราะเส้นผมไม่ได้อยู่เดี่ยวๆ แต่อยู่ร่วมกับหนังศีรษะ ดังนั้นสภาวะใดๆที่มีผลกับการเปลี่ยนแปลงของหนังศีรษะก็ส่งผลต่อคุณภาพของเส้นผมด้วยนะคะ เช่น หนังศีรษะฝ่อลีบบาง, หนังศีรษะอักเสบ, โรคผิวหนังบนหนังศีรษะ หากไม่รักษาภาวะร่วมที่เกิดขึ้นด้วยก็อาจไม่ได้ผลการรักษาสูงสุดที่ควรจะเป็นไปได้
การรักษาร่วมในกลุ่มนี้ เช่น การฉีดเซลไขมัน LipoCells™ กรณีที่คนไข้มีหนังศีรษะที่บางลงอันเนื่องจากวัยเมื่อหนังศีรษะคุณภาพดีขึ้น เลือดไปเลี้ยงรากผมมากขึ้น คุณภาพของเส้นผมทั้งผมเดิมและผมใหม่ก็จะดีขึ้นด้วยค่ะ
อีกภาวะหนึ่งที่ต้องนึกถึงเสมอคือ โรคประจำตัวและยาหรืออาหารเสริมที่คนไข้รับประทานประจำ เพราะบางภาวะอาจจะส่งผลต่อวงจรชีวิตของเส้นผมด้วย เช่น ไทรอยด์, กลุ่มยารักษาโรคหัวใจบางชนิด, ความเครียดต่อเนื่องทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ, การได้รับเคมีบำบัติหรือฉายแสงรักษาเมร็ง หรือแม้แต่การฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดหรือการคลอดก็มีผลต่ออัตราการร่วงหรืองอกของเส้นผมทั้งสิ้นค่ะ
หากไม่ได้รับการประเมิณและรักษาภาวะร่วมเหล่าที่อย่างเหมาะสมร่วมด้วย ก็อาจไม่ได้รับผลการรักษาอย่างเต็มทีนะคะ
4. การรักษาแบบผสมผสาน
สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้ว เมื่อปัญหาอาจมีมากกว่าหนึ่งปัญหาในคนไข้หนึ่งคน การดูแลที่เหมาะสมก็อาจจะต้องมีมากกว่าวิธีเช่นกัน โดยยึดจากปัญหาที่คนไข้มีเป็นหลักค่ะ
เมื่อเลือกการรักษาหลักให้เหมาะกับคนไข้ได้แล้ว การรักษารองที่ส่งเสริมผลการรักษาจากแผนการรักษาหลักให้ได้ผลสูงสุด ที่เราแนะนำก็จะมี
4.1 ฉีดเซลไขมันใต้หนังศรีษะ LipoCells™ Fat transfer
เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหา หนังศีรษะลีบบางเนื่องจากอายุ หรือ เคยมีภาวะหนังศีรษะอักเสบเป็นๆหายๆมาก่อน ส่งผลทำให้หนังศีรษะบางลง
ซึ่งเมื่อหนังศีรษะบางลง เส้นเลือดเล็กและเนื้อเยื่อที่พยุงรากผมก็จะฝ่อลงตามไปด้วย ดังนั้น การฟื้นฟูสภาพผิวหนังใต้หนังศีรษะก็สามารถฟื้นฟูสภาพเส้นผมไปด้วยค่ะ
4.2 ฉีดโกรธแฟคเตอร์ Growth factors
เหมาะสำหรับการบำรุงรากผม ทำโดยการสะกัดโกรธแฟคเตอร์เข้มข้นที่มีในเลือดจากตัวคนไข้เอง ฉีดลงชั้นใต้ผิวหนัง
โกรธแคเตอร์ที่มีในสารสะลายเข้มข้นนั้นจะช่วยบำรุงสภาวะโดยรวมของเซลรากผมค่ะ อารมณ์เหมือนเรารับประทานอาหารมื้อหลักแล้วรับประทานอาหารเสริมร่วมด้วย สามารถทำได้ทุกคนไม่มีข้อห้าม อาจจะทำก่อนหรือหลังปลูกผมในแฟนการรักษาหลักก็ได้ค่ะ
4.3 สายแสงกระตุ้นรากผม LED light
คลื่นแสงแต่ละสี มีคุณสมบัติเฉพาะในตัวเอง เมื่อปรับความถี่ของแสง, ความเข้มข้นของแสงให้เหมาะสม แสงสีนั้นๆก็จะกระตุ้นเซลที่ฉายโดนสำแสงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมค่ะ
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพราะแพทย์จะเป็นผู้ตั้งค่าโปรแกรมแสงให้เหมาะสมกับภาวะที่ต้องการดูแลนะคะ
5. สรุป แนวทางการดูแลเมื่อเข้ารับการรักษา
ลำดับแรกสุดประเมิณปัญหาของคนไข้แต่ละท่านค่ะ
เนื่องจากการระบาดของโรคโควิดเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของทั้งฝั่งคนไข้เองและเจ้าหน้าที่คลินิก ทางคลินิกจึงได้ทำการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนมาก แพทย์ก็จะสามารถประเมิณสภาวะและการรักษาเบื้องต้นได้ค่ะ
ปรึกษาออนไลน์ฟรีทัก @PureAndBright
ปรึกษาแพทย์แจ้ง เพศ, อายุ, โรคประจำตัวหรือยาที่รับประทานประจำถ้ามี, ประวัติสั้นๆที่เกี่ยวกับปัญหาผม นะคะ
เช่น รู้สึกบางลง 2 ปี, ประวัติพันธุกรรมผมร่วง และสุดท้ายรูปถ่ายผมส่งมา เมื่อแพทย์ประเมิณแล้ว ก็จะทำการโทรกลับเพื่อให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ
เมื่อได้การวางแผนเบื้องต้นและการรักษาที่เหมาะสมแล้ว แพทย์ก็จะแนะนำโปรแกรมการปลูกผมที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดค่ะ และหากไม่มีข้อจำกัดใดๆ หลังจากวางมัดจำแล้วคลินิกจะทำการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการตามขั้นตอนต่อไปค่ะ
กรณีที่คนไข้ต้องการนัดเข้ามาปรึกษาที่คลินิกก็สามารถทำได้ค่ะ คนไข้สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คลินิกเพื่อจองเวลาปรึกษา โดยเจ้าหน้าที่จะประเมิณความเสี่ยงอื่นๆ เช่นสถานะการรับวัคซีนโควิดด้วย เพื่อให้ทุกท่านได้รับบริการที่มีความปลอดภัยสูงสุดค่ะ
สรุปตอบคำถามว่า
“ปลูกผมที่ไหนดี”
เชื่อว่าคนไข้ทุกท่านมีหลักการพิจารณาในใจอยู่แล้วบ้าง สำหรับที่เรา เราคงตอบได้แน่ๆเลยว่า ปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ในการดูแลคนไข้แต่ละคนก็ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดในการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละท่านไปด้วย
การปลูกผมเป็นการทำงานที่ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ร่วมกันค่ะ ที่ เพียวร์แอนด์ไบรท์ คุณจะได้รับการดูแลแบบเฉพาะปัญหาที่เป็นบริบทเฉพาะของคุณเองค่ะ
สนใจปรึกษาแพทย์ ติดต่อคลินิกได้เลยนะคะ @PureAndBright
❝For me, the working of hair is architecture with a human element.❞
– Vidal Sassoon
เอกสารอ้างอิง
Hair Transplantation.
Zito PM, Raggio BS. 2021 Jul 25. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2021 Jan–. PMID: 31613520