🌟 การฉีดผิวคืออะไร?

ฟื้นฟูผิวจากภายใน ด้วยการฉีดที่แม่นยำ เห็นผลไว ไม่ต้องผ่าตัด 

Skin Injection คือวิธีฟื้นฟูผิวโดยการฉีดสารสำคัญเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), เกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP), หรือสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulators) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมความชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอยจากต้นตอ

เทคนิคนี้ได้รับความนิยมในวงการแพทย์ผิวหนังและความงาม เนื่องจากให้ผลลัพธ์ชัดเจน เห็นผลไว และปลอดภัย

🔬 สารที่นิยมใช้ในการฉีดผิว

การฉีดสารบำรุงผิวเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหน้าในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายชนิด โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูผิวที่แห้งล้า ลดเลือนรอยสิว เติมความชุ่มชื้น หรือกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว

🧬 PRP (Platelet-Rich Plasma)

เป็นการสกัดเกล็ดเลือดเข้มข้นจากเลือดของเราเอง แล้วนำกลับมาฉีดเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวตามธรรมชาติ PRP มีฤทธิ์ช่วยลดรอยสิว รอยหลุม ผิวที่เคยแห้งเสียให้กลับมาแข็งแรง เพราะอุดมไปด้วย Growth Factors ที่มีคุณสมบัติเร่งการซ่อมแซมเซลล์

🔄 PRF (Platelet-Rich Fibrin)

คล้ายกับ PRP แต่จะมีเส้นใยไฟบรินผสมอยู่ ทำให้สารสำคัญค่อย ๆ ปล่อยออกในระดับลึกอย่างอ่อนโยน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวบาง เช่น รอบดวงตา หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบฟื้นฟูจากภายในโดยไม่กระตุ้นแรงเกินไป

💧 Skin Booster

มักประกอบด้วย Hyaluronic Acid (HA) และวิตามินรวม โดย HA เป็นสารที่ช่วยเติมน้ำใต้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นแบบลึก ทำให้ผิวดูเด้ง ฉ่ำวาว เปล่งปลั่งจากภายในทันทีหลังฉีด เหมาะกับผิวที่แห้งกร้าน ขาดน้ำ หรือเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ

🔹 Filler (HA, CaHA)

ใช้สารเติมเต็มอย่าง Hyaluronic Acid (HA) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เพื่อเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า หรือเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการ เช่น ร่องแก้ม ขมับ คาง และใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสมดุลยิ่งขึ้น

🛡️ Biostimulator (PLLA, CaHA)

กลุ่มนี้ไม่ได้เติมเต็มทันที แต่จะกระตุ้นให้ผิวสร้าง คอลลาเจนใหม่ ในระยะยาว เช่น PLLA (Poly-L-Lactic Acid) หรือ CaHA ช่วยให้ผิวแน่น กระชับ ยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังฉีด เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนานแบบธรรมชาติ

🧊 Botox (Botulinum Toxin Type A)

ทำงานโดยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก ตีนกา ระหว่างคิ้ว ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้น

📍 จุดฉีดยอดนิยม

⚙️ กลไกการฟื้นฟูผิวด้วยการฉีด

     การฉีดสารเพื่อฟื้นฟูผิว ไม่ใช่แค่การ “เติมเข้าไป” เท่านั้น แต่ยังอาศัยกลไกทางชีววิทยาในหลายระดับ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมี 4 กลไกหลักที่ทำงานร่วมกัน ดังนี้:

💧 เติมเต็ม – โครงสร้างผิวและชั้นไขมันที่ฝ่อลงตามวัย

     เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันและเนื้อเยื่อใต้ผิวจะค่อย ๆ ฝ่อลง ทำให้ใบหน้าดูตอบ แห้ง หรือเกิดร่องลึก การใช้สารเติมเต็ม เช่น Hyaluronic Acid (HA) หรือ Calcium-based Filler จะช่วยคืนความอิ่มเอิบให้ผิว เติมเต็มโครงสร้างที่ขาดหาย และคืนรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

💡 กระตุ้น – การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินโดยธรรมชาติ

     สารกลุ่ม Biostimulator เช่น PLLA หรือ CaHA ไม่ได้เพียงแค่เติมเต็ม แต่กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ จากภายใน ช่วยให้ผิวแน่น ยืดหยุ่น และฟูขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน

🧬 ฟื้นฟู – การทำงานของเซลล์ผิวด้วย Growth Factor

     สารธรรมชาติอย่าง PRP (Platelet-Rich Plasma) และ PRF (Platelet-Rich Fibrin) ซึ่งได้จากเลือดของเราเอง มี Growth Factor สูง ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวโดยตรง ทำให้ผิวที่เคยอ่อนแอจากรอยสิว แผล หรือหลุมสิว กลับมาแข็งแรง สดใส และเรียบเนียนอีกครั้ง

🔄 ลดเลือน – การแสดงออกของริ้วรอยอย่างตรงจุด

Botulinum Toxin (หรือ Botox) ทำงานโดยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น ตีนกา หน้าผาก หรือรอยขมวดคิ้ว เมื่อกล้ามเนื้อผ่อนคลาย ผิวก็เรียบขึ้น และใบหน้าก็ดูสดใสขึ้นอย่างชัดเจน

⏰ เห็นผลเมื่อไหร่? อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดสารฟื้นฟูผิว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Skin Booster, PRP, Filler หรือ Botox ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้ และกลไกการออกฤทธิ์ของแต่ละชนิด โดยสามารถสรุปได้ดังนี้:

✅ เริ่มเห็นผลภายใน 3–7 วันแรก

หลังจากฉีดสารเข้าสู่ผิว บางชนิดจะให้ผลลัพธ์ค่อนข้างเร็ว เช่น Skin Booster หรือ Botox ที่จะเริ่มทำให้ผิวดูชุ่มชื้น ใสขึ้น หรือริ้วรอยเริ่มคลายตัวในช่วง 3–5 วันแรก ส่วนสารที่กระตุ้นการฟื้นฟูจากภายใน เช่น PRP หรือ Biostimulator อาจใช้เวลาประมาณ 7–14 วัน จึงเริ่มสังเกตได้ว่าผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้น

⏳ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3–18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดที่ใช้

• Botox: อยู่ได้เฉลี่ย 3–6 เดือน

• Skin Booster (HA แบบไม่ยกกระชับ): อยู่ได้ 3–6 เดือน

• Filler (HA / CaHA): อยู่ได้ 6–12 เดือน

• Biostimulator (PLLA): กระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่องนาน 12–18 เดือน

• PRP / PRF: อยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน แล้วควรทำซ้ำเพื่อผลต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ระยะเวลาที่เห็นผลอาจสั้นหรือยาวกว่านี้ได้ ขึ้นกับ สภาพผิว อายุ การดูแลตัวเองหลังทำ และการตอบสนองของร่างกาย

📍 ทำไมต้องเลือก Pure & Bright Clinic?

👩‍⚕️ ฉีดโดยแพทย์ Aesthetic Doctor มากประสบการณ์
🧴 ทุกขวดเปิดใหม่ ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์แท้ 100% จากบริษัทตัวแทน
🧑‍⚕️ วิเคราะห์ใบหน้าอย่างเป็นระบบ ไม่เร่งขาย ไม่ยัดคอร์ส
🚇 ใกล้ MRT สุทธิสาร พร้อมที่จอดรถสะดวก

🎯 อยากให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นภายในไม่กี่วัน?

แค่ “1 เข็ม” ที่แม่นยำและเหมาะกับผิวคุณ ก็ช่วยให้กลับมามั่นใจในตัวเองอีกครั้ง 💖
ปรึกษาแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย 👇

📲 ไลน์ ID : @PureAndBright
📞 โทร: 0891718100
🕚 เปิด จันทร์ – เสาร์  9.30 – 18.30 น.

Sundaram H, Cassuto D. Biophysical and biochemical effects of hyaluronic acid formulations on skin: a systematic review.

J Drugs Dermatol. 2013 Jun;12(6):605-12. Full text